บรรดาแฟนบอลของทัพหงส์แดง น่าจะชอบอกชอบใจไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อทางด้านของ โจ โกเมซ ปราการหลังชาวอังกฤษ ของ ลิเวอร์พูล ได้ออกมาเปิดเผยว่า การที่เขาตัดสินใจต่อสัญญาฉบับใหม่กับทางต้นสังกัด เพราะมีเป้าหมายที่จะกลับไปทวงคืนตำแหน่งจริงในถิ่นแอนฟิลด์ กลับคืนมาให้ได้ หลังถูกลดบทบาทไปอย่างมาก หลังประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ จนต้องกลายสถานะเป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น
ทวงตำแหน่งคืน! โจ โกเมซ บอก มีเป้าหมายที่กลับไปเป็นตัวจริง จึงต่อสัญญาฉบับใหม่กับ ลิเวอร์พูล
โจ โกเมซ ปราการหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษ วัย 25 กะรัต ของทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวทีพรีเมียร์ลีก ได้ออกมายอมรับแบบตรงไปตรงมาว่า การที่เขาตัดสินใจต่อสัญญาฉบับใหม่กับทางต้นสังกัด ก็เป็นเพราะต้องการกลับไปทวงตำแหน่งตัวจริงในถิ่นแอนฟิลด์ กลับคืนมา หลังถูกลดบทบาทลงไปอย่างมากในฤดูกาลก่อน แถมยังมีกระแสข่าวลือเรื่องการย้ายออกจากทีมอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว
โจ โกเมซ ถูกลดบทบาทไปอย่างมาก หลังเขาหายจากอาการบาดเจ็บ จากปราการหลังตัวหลัก กลายเป็นเพียงตัวสำรองสุดท้าย รองจาก เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ , โจแอล มาติป และ อิบราฮิม่า โกนาเต้ และได้รับโอกาสลงสนามในฐานะ 11 ตัวจริง ให้กับ ลิเวอร์พูล ไปเพียงแค่ 4 เกมบนเวทีพรีเมียร์ลีก แถมยังขยับไปเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็คฝั่งขวา อีกด้วย นั่นทำให้เกิดกระแสข่าวลือว่า นักเตะอาจจะตัดสินใจย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์ ในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่กำลังจะมาถึง
และดูเหมือน แอสตัน วิลล่า จะอยากได้ตัว โจ โกเมซ ไปร่วมทีม หลัง สตีเว่น เจอร์ราด มีความคุ้นเคยกับนักเตะเป็นอย่างดี เพราะเคยร่วมงานกันมาก่อน สมัยที่เขาทำหน้าคุม ลิเวอร์พูล ชุดเยาวชน แต่สุดท้ายการย้ายทีมก็ไม่ได้เกิดขึ้นแต่อย่างใด เพราะเขายังคงเป็นหนึ่งนักเตะคนสำคัญในแผนการทำทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะทำการสยบกระแสข่าวลือเรื่องการย้ายทีม ด้วยการต่อสัญญาฉบับใหม่ ไปจนถึงช่วงเดือนมิถุนายน ของปี 2027
โดยทางด้านของ โจ โกเมซ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เอาไว้ว่า ผมเข้าใจถึงเหตุผลที่ทำให้ใครหลายคนคิดว่าผมจะย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล แต่ผมกลับทำในสิ่งตรงกันข้าม นั่นก็คือการต่อสัญญาฉบับใหม่ เป้าหมายของผม คือการกลับไปเป็นตัวหลักของทีมให้ได้อีกครั้ง ในฤดูกาลหน้า นี่ถือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจครั้งสำคัญ และผมก็รู้ว่าตัวเองตัดสินใจได้ถูกต้องกับการเลือกที่จะลงเล่นที่นี่ต่อไป
เครดิตภาพ : madridnnation.com,si.com
#ลิเวอร์พูล #พรีเมีนร์ลีก #ข่าวฟุตบอล